นโยบายความเป็นส่วนตัว
ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
มีผลบังคับใช้ 26 พฤษภาคม 2565
บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เอสเบ จำกัด (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “บริษัท”) ตระหนักและให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการของบริษัท และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ในเรื่องการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ
ประกาศฉบับนี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านในฐานะผู้ใช้บริการของบริษัทได้ทราบรายละเอียดของวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของท่านภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ทั้งนี้ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ในประกาศนี้ บริษัทดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ซึ่งหมายความว่า บริษัทเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
คำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“บริษัท” หมายความถึง บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เอสเบ จำกัด
“ผู้ปฏิบัติงาน” หมายความถึง เจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานของบริษัท
“ผู้ใช้บริการของบริษัท” ได้แก่ ลูกค้า ผู้ใช้งานเว็บไซต์ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ
บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันประกอบไปด้วย
1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านติดต่อหรือทำธุรกรรมกับบริษัท
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล | รายละเอียดและตัวอย่าง |
---|---|
ข้อมูลที่เป็นการระบุตัวตนโดยทั่วไป | เช่น คำนำหน้าชื่อ ยศ / ตำแหน่ง ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ สถานภาพทางการสมรส สัญชาติ วันเดือนปีเกิด กรุ๊ปเลือด ลายมือชื่อ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรอื่นๆ หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส เอกสารการเปลี่ยนชื่อสกุล ใบสำคัญการสมรส ใบสำคัญการหย่า หนังสือรับรองแยกกันอยู่ มรณบัตร ใบอนุญาตขับขี่ ใบแทน /บบัตรชั่วคราว) ข้อมูลยานพาหนะ บัญชีเครือญาต ข้อมูลจากแหล่งสาธารณะ (เช่น อินเทอร์เน็ต สื่อสั่งพิมพ์) |
ข้อมูลการติดต่อ | เช่น ที่อยู่ตามทะเบียบบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน (เช่น เลขที่ ชั้น ห้อง หมู่บ้าน อาคาร โรงเรียน วัด หมู่ ซอย ถนน แขวง ตำบล เขต อำเภอ จังหวัด ประเทศ รหัสไปรษณีย์ ที่อยู่ที่ทำงาน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ชื่อบัญชีผู้ใช้สื่อสังคมอนนไลน์ เช่น Line facebook) |
ข้อมูลทางการเงิน | เช่น หนี้ค้างชำระ สถานะข้อมูลเครดิต
สถานะกฎหมาย และถานะการล้มละลาย สินทรัพย์และรายละเอียดบัญชี (เช่น แหล่งที่มาของเงิน
ประเทศที่มาของแหล่งเงินทุน รายได้ต่อเดือน ค่าใช้จ่ายต่อเดือน
รายได้ครอบครัวเฉลี่ยต่อเดือน ค่าใช้จ่ายครอบครัวเฉลี่ยต่อเดือน
แหล่งเงินทุนและสินทรัพย์ เลขที่บัญชีเงินกู้ เลขที่บัญชีเงินฝาก เลขที่โฉนดที่ดิน
ประวัติภาระค่าใช้จ่าย การผ่อนชำระ ใบรับรองเงินเดือน / หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ
สลิปเงินเดือนหรือ หลักฐานการรับเงินเดือน ประวัติการทำรายการผ่านบัญชีเงินฝาก / หลักฐานการแสดงฐานะการเงินอื่น ๆ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี หลักฐานการเสียภาษีหลักฐานการประกันสังคม ปริมาณการทำธุรกรรม) ใบแจ้งหนี้หรือใบเสร็จค่าสาธารณูปโภค Token ID |
ข้อมูลเ กี่ยวกับบผลิตภัณฑ์ / บริการที่ใช้ และการทำธุรกรรมกับบริษัท |
เช่น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ / บริการที่สนใจ หรือที่ใช้ ข้อมูลประกอบการขอสินเชื่อ (เช่น
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม (กรณีมีผู้กู้ร่วม))
ข้อมูลประกอบการขอสินเชื่อโครงการ (เช่น สัญญาเช่า / สัญญาจอง /
สัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์ในโครงการ และเอกสารยืนยันตัวตนผู้ซื้อ / ผู้ขาย
สัญญารับเหมาก่อสร้าง และเอกสารยืนยันตัวตนผู้รับเหมาก่อสร้าง สัญญากู้เงิน /
ขายฝาก และ ข้อมูลการอายัดเงินฝาก / บัญชี และเอกสารประกอบ (เช่น ใบแจ้งความ) |
ข้อมูลหลักประกัน หรือทรัพย์สินที่จะซื้อจะขาย | เช่น รายละเอียดทรัพย์สิน (เช่น
ประเภททรัพย์สิน เนื้อที่ ราคา) การจดทะเบียนภาระจำยอม เอกสาร / สำเนาเอกสารหลักประกัน
เช่น สัญญาจะซื้อจะขาย / สัญญาวางมัดจำ/ และหนังสือรับรองยอดคงเหลือ (กรณีซื้อ) หนังสือสัญญา กู้เงิน สัญญาจำนองกับสถาบันการเงินเดิม (กรณีไถ่ถอนจำนอง) ใบเสร็จการผ่อนชำระหรือบัญชีหมุนเวียน หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร หนังสือสัญญาขายที่ดินฉบับกรมที่ดิน โฉนดที่ดิน / นส.3ก. / หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อช.2) ใบอนุญาตปลูกสร้าง / ต่อเติม แบบแปลน ใบประมาณการปลูกสร้าง / สัญญาจ้างก่อสร้าง |
ข้อมูลการศึกษาหรือการทำงาน | เช่น ประวัติการศึกษา (เช่น ระดับการศึกษา สถาบันการศึกษา คณะ สาขาวิชา) ข้อมูลการทำงาน (เช่น อาชีพ รูปแบบธุรกิจ / ประเภทธุรกิจ business sector ตำแหน่ง อายุการทำงาน ชื่อบริษัท / ชื่อที่ทำงาน ระยะเวลาการประกอบกิจการ สำเนาทะเบียนการค้า / ทะเบียนบริษัท / ห้างหุ้นส่วนฯ จำนวนพนักงาน / ลูกจ้าง รูปถ่ายกิจการ สำเนาใบประกอบวิชาชีพ) ประสบการณ์การทำธุรกิจ หนังสือรับรองการทำงาน บัตรประจำตัวพนักงาน ความเชี่ยวชาญ |
ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง | เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในขอบเขตงานที่จ้าง รายละเอียดสัญญา เอกสารการเสนอราคา ประวัติการทำธุรกรรมกับธนาคาร การเป็นสมาชิกสมาคมที่เกี่ยวข้องกับงานที่จ้าง |
ข้อมูลบันทึกการติดต่อกับบริษัท | เช่น คำขอใช้บริการ ข้อร้องเรียนร้องและบันทึกผลการสอบทานข้อเท็จจริง คำร้องขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล บันทึกเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ |
ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและตามกฎหมายป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกา
(Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) |
เช่น สถานะการเป็นพลเมืองอเมริกัน สถานะการเป็นผู้ถือบัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร (กรีนการ์ด) การมีถิ่นที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาการสละความเป็นพลเมือง การทำรายการไปยัง/การทำรายการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีในสหรัฐอเมริกา การมีหน้าที่ช าระภาษีแก่หน่วยงานจัดเก็บภาษีอากรของสหรัฐอเมริกา (Internal Revenue Service: IRS) การอ้างสิทธิประโยชน์ตามอนุสัญญาภาษีซ้อน |
ข้อมูลเชิงเทคนิค | บันทึกผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Log Files) ซึ่งรวมถึงข้อมูลเชิงเทคนิค (เช่น Internet Traffic, IP Address, Log, User Information) และข้อมูลสถิติการใช้งานเว็บไซต์ของธนาคาร โดยธนาคารมีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) ซึ่งอาจมีการเก็บรวมรวมข้อมูลบางประเภทที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล |
ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันการฉ้อโกง และ/หรือ การดำเนินการทางกฎหมาย | เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการฉ้อโกงหรือการกระทำการโดยมิชอบโดยประการอื่นใดต่อธนาคาร และ/หรือบุคคลภายนอก (เช่น ลักษณะการกระทำ ความเสียหาย) ข้อมูลอื่น ๆ ที่ได้รับประกอบการบังคับคดี (เช่น หมายศาล คำสั่งศาล หมายเลขคดี หมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี) |
1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท (เช่น คู่สมรส (ทั้งที่จดและไม่จดทะเบียนสมรส) บุตร บุพการี ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลที่ถูกระบุในบัญชีเครือญาติ ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง บุคคลอ้างอิง ผู้มีกรรมสิทธิ์หรือถือสิทธิครอบครองในที่ดิน คู่กรณี ผู้รับโอนเงิน รวมทั้งบุคคลอื่นใดตามเอกสารการทำธุรกรรมและเอกสารใบอนุญาตจากทางราชการ (เช่น พยาน ผู้รับเงิน เจ้าหน้าที่ บุคคลที่ปรากฏในทะเบียนบ้าน)) หรือท่านขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าวแก่บุคคลภายนอก ท่านตกลงรับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้ให้แก่บุคคลที่สามดังกล่าวนั้นทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวนั้น (หากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม) ท่านควรตรวจสอบความถูกต้องและความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้แก่บริษัท และแจ้งให้บริษัททราบถึงการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้ นอกจากนี้ ท่านยังมีหน้าที่ดำเนินการเพื่อให้บริษัทสามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นได้ตามกฎหมาย ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้ด้วย
1.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ
บริษัทไม่มีความตั้งใจที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เว้นแต่บริษัทจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ (ในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมและผู้เยาว์ไม่สามารถให้ความยินยอมได้ด้วยตนเองตามกฎหมาย) ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลก่อน (แล้วแต่กรณี) ทั้งนี้ หากบริษัททราบว่าบริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ (ในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมและผู้เยาว์ไม่สามารถให้ความยินยอมได้ด้วยตนเองตามกฎหมาย) หรือเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคนเสมือนไร้ความสามารถหรือคนไร้ความสามารถโดยมิได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาล (แล้วแต่กรณี) โดยไม่ได้เจตนา บริษัทจะดำเนินการเพื่อลบข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นโดยเร็วเท่าที่จะปฏิบัติได้ เว้นแต่บริษัทจะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมที่จะสามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นได้
วิธีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
- ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัท เช่น เอกสาร อิเล็กทรอนิกส์ ด้วยวาจา
- ผ่านทางช่องทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ของผู้ให้บริการอื่น
การเชื่อมต่อไปยังหน้าเว็บไซต์อื่น
ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อท่านคลิกลิงก์จากเว็บไซต์ของบริษัทเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น ซึ่งถือว่าท่านได้สิ้นสุดการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทแล้ว ในกรณีที่เว็บไซต์อื่นมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์ต่อความเป็นส่วนตัวของท่าน บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวของทุกเว็บไซต์ที่ท่านเข้าเยี่ยมชม
- เหตุผลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทำการประมวลผลข้อมูลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด ดังต่อไปนี้
2.1 เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่แจ้ง และได้รับความยินยอมจากท่านอย่างชัดแจ้ง
2.2 เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อจำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา เช่น การให้บริการแก่ท่าน การปฏิบัติตามกระบวนการภายในของบริษัทเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามสัญญา
2.3 เพื่อประโยชน์สาธารณะ
ในบางกรณี บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐให้ดำเนินการ
2.4 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
บริษัทมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อการบริหารจัดการภายใน ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทรวมถึงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยง ที่อาจเกิดการกระทำผิดกฎหมาย รวมถึงการบันทึกภาพในพื้นที่บริเวณบริษัท เพื่อการรักษาความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยภายในบริเวณดังกล่าว รวมถึงเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การเสนอสิทธิประโยชน์โดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการตลาด
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อทำรายการตามที่ท่านประสงค์ โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ และคำร้องขอหรือความคิดเห็นที่ท่านได้ให้ไว้ เมื่อท่านลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัท หรือผ่านทางช่องทางอื่นๆ อาทิ กรอกเอกสารแบบสอบถาม เมื่อท่านติดต่อมายังบริษัทและแจ้งความประสงค์ให้ติดต่อกลับเพื่อให้ข้อมูล หรือเพื่อดำเนินการตามอื่นๆ ตามที่ท่านร้องขอ
เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการ
เพื่อดำเนินการตามสัญญากับคู่สัญญาที่บริษัทจัดจ้างหรือใช้บริการ
เพื่อดำเนินการตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ เพื่อประโยชน์อื่นใดที่ท่านได้ให้ความยินยอม
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้บริการภายนอก (Supplier/Outsource/Service Provider) บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญา หรือเพื่อประเมินประสิทธิภาพของผู้ให้บริการ อย่างไรก็ตามการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะกระทำภายใต้เหตุผลที่กฎหมายรองรับ โดยอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนฐานทางกฎหมายที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล
การตลาด
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในด้านการตลาดและการโฆษณา บริษัทมีกลไกการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
เพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการให้บริการ
บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ข้อมูลทางเทคนิคและการใช้งาน (Technical and Usage Data) และ ข้อมูลความสนใจ (Profile Data) ของท่าน เพื่อวิเคราะห์และนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เหมาะสมให้กับท่าน รวมถึงเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสาร นำเสนอสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นต่างๆ ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับข้อมูลข่าวสารด้านการตลาดได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ โปรดดูรายละเอียดในหัวข้อ การยกเลิกการรับข้อมูลการตลาด (Opting Out) ด้านล่าง
การยกเลิกการรับข้อมูลการตลาด
ท่านสามารถปฏิเสธไม่รับข่าวสารจากบริษัทได้ โดยมีช่องทางการติดต่อตามหัวข้อด้านล่าง ในกรณีที่ท่านเลือกที่จะปฏิเสธไม่รับข่าวสารทางการตลาด การยกเลิก/ปฏิเสธนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการแก่ท่านหรือธุรกรรมอื่นใดที่ท่านมีกับบริษัท
คุ้กกี้
เว็บไซต์ของบริษัททำการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงเว็บไซต์ที่ให้บริการ และสร้างข้อมูลโปรไฟล์เกี่ยวกับการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท โดยไม่มีการเข้าถึงฮาร์ดไดรฟ์ของท่าน ท่านสามารถจัดการฟังก์ชั่นคุกกี้ในหน้าการตั้งค่าของบราว์เซอร์ได้ เช่น การเลือกปิดคุ้กกี้บางประเภทตามที่ท่านต้องการ หากท่านต้องการทราบวิธีการจัดการฟังก์ชั่นคุกกี้ โปรดไปยังเมนูช่วยเหลือในบราว์เซอร์ของท่าน โดยการปิดฟังก์ชั่นคุกกี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของท่านในการทำธุรกรรม การใช้ฟังก์ชั่น และ การเข้าถึงเนื้อหาบางอย่างบนเว็บไซต์ของบริษัท
- รายละเอียดการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทไม่มีนโยบายในการขายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ข้อมูลของท่านจะถูกเก็บรักษาเป็นความลับ และบริษัทจะไม่ทำการเปิดเผยข้อมูลของท่านเว้นแต่กรณีที่จำเป็น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งแก่ท่านตามรายละเอียดข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจากท่านไว้ก่อนหน้านี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้กับบุคคลหรือหน่วยงานดังต่อไปนี้
ผู้ให้บริการภายนอก (Supplier/Outsource/Service Provider) เช่น พันธมิตรทางธุรกิจ ที่ปรึกษา ผู้ให้บริการ Cloud Computing บริษัทรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด บริษัทรับจ้างพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยบุคคลหรือหน่วยงานอื่นที่บริษัททำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปนั้น สามารถเก็บรวบรวม และใช้ได้เฉพาะวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ในข้อตกลงเท่านั้น
หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือเป็นไปตามคำสั่งของหน่วยงาน
- มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเคร่งครัด และเคารพในความเป็นส่วนตัวของท่าน รวมถึงดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด ดังนี้
- จัดหมวดหมู่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลลับ (Confidential Information)
- มีมาตรการในการบริหารจัดการข้อมูล (Organizational Measure) และมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) เพื่อป้องกันการดักฟัง ปลอมแปลงข้อความ การเข้าถึง การใช้งาน หรือการเปลี่ยนแปลงโดยมิได้รับอนุญาต เช่น ระบบสารสนเทศในการรักษาความปลอดภัย นโยบายการรักษาข้อมูลความลับของลูกค้า เป็นต้น
- พนักงาน ลูกจ้าง และผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท (Supplier/ Outsource/ Service Provider) มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ตามสัญญารักษาความลับที่ได้ลงนามไว้กับบริษัท
- จัดทำกระบวนการเพื่อจัดการกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (Data Breach) และจะแจ้งให้ท่านทราบหากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกละเมิด โดยการดำเนินการจะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้การรับส่งข้อมูลทางอินเตอร์เนตยังคงมีข้อจำกัดในการดูแลรักษาความปลอดภัย แม้บริษัทจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเข้มงวดแล้วก็ตาม บริษัทจึงไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลที่ท่านเปิดเผยผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ดังนั้น บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความสูญเสียที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อม จากการเข้าถึงข้อมูลโดยมิได้รับอนุญาต (Unauthorized Access) ที่ท่านให้ไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทเว้นแต่ในกรณีที่บริษัทเป็นผู้ละเลย
- บริษัทต้องจัดมาตราการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้มีความเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทต้องทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เมื่อบริษัทมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลมีประสิทธิภาพที่เหมาะสม
- บริษัทต้องจัดให้มีระบบการตรวจสอบข้อมูลในกรณีดังต่อไปนี้
3.1 เพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษา
3.2 เพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์
3.3 เพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ
3.4 เพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคลลได้ถอนความยินยอม
- เมื่อมีเหตุการละเมิดบริษัทจะต้องแจ้งเหตุการละเมิดแก่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล ภายใน 72 ชั่วโมง โดยไม่ชักช้า นับแต่ทราบสาเหตุ
- ให้บริษัทบันทึกรายการ อย่างน้อยต่อไปนี้ เพื่อลูกค้าหรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและสำนักงานสามารถตรวจสอบได้ โดยจะบันทึกเป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้
5.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
5.2 วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท
5.3 ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
5.4 ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล
5.5 สิทธิและวิธีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า รวมทั้งเงื่อไขเกี่ยวกับบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและเงื่อนไขในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
5.6 การใช้หรือเปิดเผยข้อมูล
5.7 การปฏิเสธคำขอหรือการคัดค้านการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
5.8 คำอธิบายเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย
- พนักงานในบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ต้องดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ได้รับจากบริษัทหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น
- พนักงานต้องจัดให้มีมาตราการในการรักษาความมมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญ หาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยมีอำนาจหรือโดยมิชอบ รวมทั้งต้องแจ้งให้บริษัทหรือผู้ควบคุมทราบถึงเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้น
- พนักงานต้องจัดทำและเก็บรักษาบันทึกรายการของกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไว้
ทั้งนี้ บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ของบริษัท
- ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเป็นระยะเวลา ดังต่อไปนี้
5.1 สำหรับข้อมูลลูกค้า เก็บรักษาไว้ 10 ปี นับจากวันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท
5.2 สำหรับข้อมูลผู้ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เก็บรักษาไว้ 3 ปี นับแต่วันที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคล
5.3 สำหรับข้อมูลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ เก็บรักษาไว้ 3 ปี นับแต่วันที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัทจะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมุลเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้ง อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลบางส่วนเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล ในกรณีที่ได้ใช้สิทธิหรือมีข้อพิพาทหรือคดีความ หรือการใช้บริการ บริษัทขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าภารกิจดังกล่าวจะมีข้อกำหนดให้ยกเลิก หรือข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
- สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถยื่นคำร้องใช้สิทธิตามช่องทางการติดต่อที่บริษัทได้ให้ไว้ในหัวข้อ “7.” บริษัทจะดำเนินการตามคำร้องขอของท่านโดยเร็วที่สุดไม่เกิน 30 วัน หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับปริมาณและความซับซ้อนของคำร้องขอ
- สิทธิในการถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ โดยบริษัทจะหยุดการประมวลผลข้อมูลของท่านโดยเร็วที่สุดรวมถึงอาจทำการลบข้อมูลของท่านออก เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลที่เกี่ยวกับท่าน รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือ ขอรับข้อมูลที่บริษัทส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่มีเหตุผลอื่นใดที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการได้
- สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ หรือ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีดังนี้
- เมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่มีความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป
- ท่านถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะทำการประมวลผลได้
- ท่านได้ทำการคัดค้านการประมวลผล
- มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอันมิชอบด้วยกฎหมาย
- เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล คัดค้านการประมวลผลข้อมูล (นอกเหนือจากที่เกี่ยวข้องกับการคัดค้านการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง) และบริษัทไม่มีเหตุแห่งการอ้างการประมวลผลโดยประโยชน์อันชอบธรรม
- สิทธิในการห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- เมื่อไม่มีความจำเป็นในการประมวลผลอีกต่อไป แต่การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลยังคงมีความจำเป็นเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
- เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอันมิชอบด้วยกฎหมาย แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต้องการห้ามมิให้มีการประมวลผลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตน
- เมื่ออยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ
- เมื่ออยู่ในระหว่างการพิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า
- สิทธิในการร้องเรียน
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในกรณีที่บริษัท ลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัท กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ช่องทางการติดต่อ
หากท่านต้องการติดต่อเพื่อขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล หรือหากมีข้อสงสัยหรือข้อร้องเรียนใดๆ ท่านสามารถติดต่อได้ดังช่องทางต่อไปนี้
หน่วยกำกับปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เอสเบ จำกัด
เลขที่ 900 ถนนนวมินทร์ (ระหว่าง ถนนนวมินทร์ 52-54) แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10240
หมายเลขโทรศัพท์ 02-290-1511-1514 โทรสาร 02-290-1599